สสว. โชว์ผลงานการช่วยเหลือ SME ผ่านมาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน” ขยายผลต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือ SME ในปี 2566

สสว. แถลงผลงานช่วยเหลือ SME ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS ตามมาตรการ “SME ปัง ตังได้ คืน” มียอดสมัครกว่า 2,000 ราย เดินหน้าเปิดเฟส 2 ตั้งเป้าช่วย SME ให้ได้กว่า 6,000 ราย พร้อมเพิ่ม หน่วยผู้ให้บริการทางธุรกิจ และปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้ครอบคลุมความต้องการของผู้ประกอบการมากขึ้น

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า “จากการที่ สสว. เปิดตัวมาตรการ SME ปัง ตังได้คืน โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS หรือ Business Development Service ปี 2565  ภายใต้แนวคิดที่ต้องการช่วยผลักดันให้ SME ได้มีโอกาสเข้าถึงการให้บริการของหน่วยงานภาครัฐที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนายกระดับศักยภาพในด้านต่าง ๆ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์  ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกบริการที่ตรงกับความต้องการและเหมาะสมกับธุรกิจ รวมถึงสามารถเปรียบเทียบราคาบริการ และต่อรองราคาจากหน่วยงานต่าง ๆ บนระบบ BDS ได้ด้วยตนเอง และ สสว. จะช่วยอุดหนุนค่าใช้จ่ายแบบร่วมด้วยช่วยจ่าย (Co-Payment) ในสัดส่วนร้อยละ 50 – 80 ตามขนาดของธุรกิจ สูงสุดถึงรายละ 200,000 บาท

จากการเปิดตัวในเฟสแรก สสว. ได้เปิดบริการใน 3 หมวด คือ การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินค้าและบริการ การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ  พบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี  มีผู้ประกอบการ SME สมัครเข้าใช้งานบนระบบแล้วกว่า 2,000 ราย ได้รับอนุมัติยืนยันตัวตน จัดกลุ่มการอุดหนุน และเตรียมยื่นการพัฒนาแล้วกว่า 600 ราย และมีผู้ประกอบการได้รับอนุมัติข้อเสนอการพัฒนาและอยู่ระหว่างการพัฒนากว่า 300 ราย ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่เป็นกลุ่มการค้าส่งและค้าปลีก กลุ่มผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ยาและสมุนไพร และกลุ่มท่องเที่ยว  นอกจากนี้พบว่าผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติยืนยันตัวตน และจัดกลุ่มการอุดหนุนจำนวน 600 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดย่อม (SE) มากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มธุรกิจรายย่อย (Micro SME) และกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง (SE+/ME) ตามลำดับ

ส่วนผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติข้อเสนอการพัฒนาและเริ่มดำเนินการพัฒนาแล้วกว่า 300 ราย ส่วนใหญ่เลือกบริการด้านการยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการ เช่น

  • บริการการจัดทำฉลากโภชนาการ และบริการประเมินอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ (Shelf Life Evaluation) โดย สถาบันอาหาร 
  • บริการตรวจวิเคราะห์ความปลอดภัยของอาหาร โดย บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด 
  • บริการทดสอบผลิตภัณฑ์ เพื่อขอรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) โดย สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 
  • บริการเตรียมความพร้อมเพื่อขอการรับรองระบบมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 ระบบบริหาร คุณภาพ (Quality Management System : QMS) โดย สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย

สำหรับบริการในด้านการตลาดมีผู้ประกอบการยื่นข้อเสนอการพัฒนาโดยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและจำหน่ายสินค้า CARE ASIA “Total Solutions for Health & Wellness” เมื่อ 1 – 4 กันยายน 2565 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา โดยใช้บริการผ่านสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ  ซึ่งจากการสรุปวงเงินที่ได้รับอนุมัติไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ สสว. ให้การอุดหนุนประมาณร้อยละ 80 คิดเป็นวงเงินงบประมาณ 15 ล้านบาท โดยคาดว่าผู้ประกอบการ SME จะได้ประโยชน์จากการใช้บริการและเกิดผลลัพธ์เป็นมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 30 ล้านบาท 

ทั้งนี้ นอกจากผลลัพธ์ในเชิงเศรษฐกิจแล้ว มาตรการ SME ปัง ตังได้คืน จะสร้างให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานผู้ให้บริการทางธุรกิจ เพื่อร่วมกันในการสร้างโอกาส และร่วมขับเคลื่อนสร้างการเติบโตให้ผู้ประกอบการ SME  โดยปัจจุบันมีผู้ให้บริการทางธุรกิจซึ่งเป็นส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ที่ขึ้นทะเบียนบนระบบ BDS แล้วกว่า 90 หน่วยงาน และขึ้นบริการขึ้นบนระบบแล้วกว่า 120 บริการ”

นายวีระพงศ์ กล่าวเสริมว่า “สสว. ยังคงเดินหน้าในเฟสที่ 2 โดยนำข้อคิดเห็นจากผู้ประกอบการและมาปรับปรุง โดยทราบว่ามีผู้ประกอบการต้องการเข้าร่วมมาตรการอีกจำนวนมาก ดังนั้น สสว. จึงขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการไปจนถึงกันยายน 2566 และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME สามารถยื่นข้อเสนอการพัฒนาได้จนถึง 31 สิงหาคม 2566  รวมทั้งจะเร่งสร้างเครือข่ายผู้ให้บริการธุรกิจ และเพิ่มบริการใหม่ ๆ ให้มากขึ้น เช่น บริการของโรงงานต้นแบบ หรือ Prototype Plant จากอุทยานวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ  เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสในการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ กลุ่ม Micro SME ที่จะสามารถเข้าไปใช้ในการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานในราคาต้นทุนการดำเนินงานไม่สูงและสามารถทำเป็นครั้ง ๆ ได้  หรือ กลุ่ม SE และ SE+ สามารถใช้บริการทดลองเพื่อผลิตสินค้าหรือใช้บริการเครื่องจักร หรือเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อทดสอบการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าและมาตรฐานสูงได้

สสว. จะปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ให้เข้าถึงผู้ประกอบการมากขึ้น เช่น จะเปิดให้SME ที่เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2564 สามารถขอรับบริการได้  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีรายได้ไม่เกิน 1,800,000 บาท สามารถขอรับบริการได้โดยแนบเอกสารรายรับ รายจ่าย และเอกสารการยืนยันสถานะการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ รวมไปถึงการเพิ่มผู้ประกอบการกลุ่ม ME ที่มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท ให้สามารถรับบริการได้ และจะได้รับวงเงินช่วยเหลืออุดหนุนเท่ากับกลุ่ม SE+ คือ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณ ร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

นอกจากนี้ สสว. จะปรับปรุงการใช้งานในระบบ BDS ให้ง่ายมากขึ้น รวมทั้งปรับปรุงคู่มือ และคลิปสอนการใช้งานเพื่อสะดวกต่อการขอรับบริการของผู้ประกอบการ SME  ซึ่งคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เข้าถึงความต้องการของผู้ประกอบการ SME ได้มากขึ้น”

           ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมมาตรการ SME ปัง ตังได้คืน  ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS (https://bds.sme.go.th/) โดยมาตรการ  SME ปัง ตังได้คืน จะเปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบการสามารถยื่นข้อเสนอการพัฒนาได้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566 สามารถดูรายละเอียดได้ที่ https://bds.sme.go.th/ หรือ โทร. 1301 หรือโทร. 0-2038-5858 หรือ ศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร หรือ OSS สสว. ในทุกจังหวัด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save