ไปส่องเทรนด์ถุงกระสอบ IKEA ว่าดังขึ้นมาได้อย่างไร
เมื่อช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านน่าจะได้เห็นข่าวการวางจำหน่ายของ Tote bag สีน้ำเงิน ทรงโอเวอร์ไซส์ ด้วยฝีไม้ลายมือการออกแบบของ Demna Gvasalia ดีไซน์เนอร์ของ Balenciaga ( และเจ้าของแบรนด์สตรีทที่กำลังมาแรงที่สุดแบรนด์หนึ่งอย่าง Vetements ) ซึ่งก็ก่อให้เกิดประเด็นที่แสนขบขันที่สุดในรอบเดือน สำหรับวงการแฟชั่น เพราะเจ้าถุงเจ้าปัญหานั้น ดันไปละม้ายคล้ายคลึงกับ IKEA 99-cent “FRAKTA” bag เสียเหลือเกิน
แต่เหมือนอย่างเดียวไม่พอ ถ้าสงสัยว่าทำไมชาวอินเทอร์เน็ตถึงล้อเลียนกระเป๋าใบนี้หนักซะขนาดนั้น ก็เพราะว่ากระเป๋าเจ้ากรรมนั้นมีราคาสูงถึง $2,145 USD เลยทีเดียว … ดังนั้นถ้าถามว่าวงการแฟชั่นนั้นกำลังเล่นปาหี่อะไรกับผู้บริโภคอยู่หรือเปล่า ผมไม่สามารถตอบประเด็นตรงนี้ได้อย่างชัดเจนนัก แต่ถ้าให้พูดในแง่เชิงวิจารณ์เกี่ยวกับกระเป๋าชิ้นนี้ เมื่อลองวิเคราะห์ให้ดีผมรู้สึกว่า Demna “ฉลาดเกมส์โกง” ยิ่งกว่าน้องออกแบบเสียด้วยซ้ำ เรามาลองมองย้อนไปกันดูสักนิด กับผลงานที่ผ่านมาของ Demna Gvasalia ถ้าจะพูดให้เคลียร์แบบง่าย ๆ ตั้งแต่สเต็ปที่หนึ่ง เมื่อนำผลงานชิ้นนี้มาเทียบกับผลงานที่ผ่านมาของเขา เราก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขาชอบ “เสียดสี” สังคมเป็นที่สุด และไอ้วีรกรรมตั้งแต่การทำเสื้อ DHL มาขายในราคาที่แพงหูฉี่ แต่ก็ยังมีคนใส่กันเต็มบ้านเต็มเมือง ไปจนถึงเหล่าเสื้อผ้าโอเวอร์ไซส์ของเขา ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเด็กอพยพไร้บ้าน ที่ต้องสวมใส่เสื้อผู้ใหญ่ในชีวิตประจำวัน นี่มันคอนเซ็ปท์ที่ยืนพื้นของคำว่า “Irony” ได้อย่างแยบยล และคมคาย แถมเจ้าตัวยังทิ้งท้ายด้วยว่าเขา “ไม่มีวัน” ที่จะซื้อเสื้อผ้าราคาป้ายของแบรนด์ตัวเองอีกด้วย
ยังไม่นับประเด็นร้อนแรงเมื่อปีที่แล้ว อย่างเจ้า Balenciaga “Palengke bag” หรือถุงผ้าแม่ค้าสำเพ็ง ที่โด่งดังบนนิวส์ฟีดโซเชียลของไทยในตอนนั้นนี่แหละ ซึ่งตัวของ Demna Gvasalia เองก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากถุงผ้าที่ว่าจริง ๆ เพียงแต่นำมาอัพเกรดให้มันดู “หรูหรา” ขึ้นเพียงเท่านั้น … ซึ่งความตลกร้ายเหล่านี้เมื่อตัวผมได้ศึกษาและตามอ่านดู ก็ทำให้ผมต้องคิดหนักเข้าไปอีกเวลาที่อยากได้เสื้อ Supreme ตัวใหม่ หรือเวลาที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเมื่อข่าวรองเท้าของ Raf Simons คอลเล็คชั่นใหม่ออกมา เพราะการแซะอุตสาหกรรมแฟชั่น ที่เริ่มจะบ้าบอขึ้นไปทุกวันแปรผันกับความอยากได้อยากโดนของผู้บริโภคผ่านเสื้อผ้าของเขา ช่างเป็นแนวคิดที่โคตรจะแสบและแทะโลมจิตใจเหยื่อทุนนิยมแฟชั่นอย่างผมเป็นอย่างยิ่ง
และถ้าถามว่าทำไมแนวคิดที่หยิบยกเอาถุง IKEA มาเป็นแรงบันดาลใจ ถึงเป็นการกระทำที่ผมชื่นชม เพราะผมเชื่อว่าการแบ่งปันแนวคิดและเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่มนุษยชาติพึงกระทำ เพื่อต่อยอดและพัฒนาอันก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่โลก ถุง IKEA เดิมทีมีความโดดเด่นในเรื่องของความทนทาน กันน้ำ กันฝน แน่นอนว่ารูปทรงและวัสดุที่มันถูกนำมาใช้ในทีแรก ได้ผ่านการคิดและวิจัยมาเป็นอย่างดีว่า รูปทรงนี้แหละทนทาน , รูปทรงแบบนี้แหละกระเป๋าถึงจะหิ้วได้สะดวก และ การใช้สีแบบนี้แหละถึงจะสวยงาม และ แสดงออกถึงความเป็น IKEA (ซึ่งมันก็ไปคล้องจองกับตัวโลโก้ของแบรนด์อีกทีหนึ่ง)
และการนำถุง IKEA มาเล่าใหม่ ด้วยการเปลี่ยนแปลงวัสดุที่ใช้เพื่อเพิ่มความลักซ์เซอรี่ของมัน ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายอะไรซะทีเดียว เพราะเรื่องของการนำสิ่งของธรรมดาเหล่านี้มาเล่าใหม่ในรูปแบบของ High Fashion ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก นับตั้งแต่การออกแบบของ Jeremy Scott กับ Moschino collection ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก McDonald เต็ม ๆ ซึ่งหลังจากที่ Tote bag ได้ถูกแพร่ภาพไปบนโลกอินเทอร์เน็ต ไอเท็มตัวนี้ก็ถูกทำให้ “goes viral” ได้โดยแทบไม่เสียสตางค์โฆษณาเลยแม้แต่บาทเดียว ความคล้ายคลึงกับถุงผ้าที่ทุกท่านคุณเคย จากห้างเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ย่านบางนา ก็ทำให้เหล่าผู้บริโภคต้องพูดถึงมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะมีคนซื้อมาหิ้วแค่ไหน หรือว่าไอเท็มชิ้นนี้จะขายหมดมั้ย ก็เป็นเรื่องที่ยากที่จะตอบ แต่ผมก็กล้าออกตัวเลยว่า Balenciaga ได้อะไรจากกระเป๋าชิ้นนี้ พวกเขาได้กลับมามากกว่ายอดขายแน่นอน เพราะ ณ ขณะนี้ก็มีเสื้อผ้าที่พยายามเลียนแบบแนวทาง IKEA นี้เยอะแยะไปหมด นับตั้งแต่การแพร่หลายของข่าวสารของกระเป๋าชิ้นนี้ ไม่ว่าจะเป็น adidas YEEZY BOOST V2 “IKEA” ที่มีคนนำมา Custom หรือเสื้อฮูดดี้ลาย IKEA ที่มีแบรนด์เจ้าเล็กหัวใส รีบทำเสื้อผ้าที่เกาะกระแสเทรนด์นี้ออกมาขายกันบ้างแล้ว
และทางแบรนด์ IKEA เองก็ไม่ได้มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่คอขาดบาดตายอะไร เพราะนอกจากจะออกมาขอบคุณ Balenciaga สำหรับแรงบันดาลใจจากกระเป๋าของพวกเขาแล้วนั้น พวกเขาก็ถือโอกาส “แซะในแซะ” ด้วยการทำแคมเปญโฆษณาที่มีชื่อว่า “How to identify an original IKEA FRAKTA Bag” (วิธีจับผิดถุง IKEA แท้) เพื่อกระตุ้นยอดขายถุงผ้าราคา 29 บาทของพวกเขาอีกด้วย ซึ่งแบรนด์หัวใสอย่าง Pleasures & Chinatown Market ก็ฉวยโอกาสนี้ ล้อเลียนแคมเปญที่ว่าอีกที ด้วยการทำ ads วางจำหน่ายหมวกแก๊ปที่ได้รับแรงบันดาลใจจากถุงผ้า IKEA เช่นกันไปด้วยซะเลย
สิ่งเหล่านี้ทำให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า High Fashion ชื่อของมันนั้น ไม่ได้ตั้งกันแบบส่ง ๆ เพราะพวกเขาก็ยังคงทำหน้าที่เป็นขุมพลังของมันสมองชั้นยอดของโลก ที่รวมตัวเอาเหล่าหัวกะทิวงการออกแบบของดาวเคราะห์ดวงนี้ไว้อย่างแน่นแฟ้น แฟชั่นเล่นตลกกับมนุษย์อยู่เสมอ แต่จะว่าไปตัวมนุษย์เองก็หยอกล้อกับมันได้อย่างกลมเกลียว ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่งดงามอยู่แล้ว เพราะความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ไร้ขอบเขต และกว้างใหญ่ไพศาลเกินกว่าจะเอามาตัดสินกันได้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี เพราะลึกลงไปนั้น รสนิยมของคนเราก็แตกต่างกันเกินกว่าจะขีดเส้นจำกัดมันเอาไว้
ไปชม Item ที่นำมาสร้างสรรค์โดยถุงกระสอบ IKEA เพิ่มเติม
ขอบคุณเนื้อข่าวจาก : Soul4street
ขอบคุณภาพประกอบจาก : Soul4street , Hypebeast และ Metro uk