สำนักงานการบินพลเรือนฯ เตรียมเอาผิด ผู้บินโดรนใกล้ ฮ. “หมูป่า”
สำนักงานการบินพลเรือนฯ เตรียมเอาผิดผู้บังคับโดรน จากกรณีปรากฏภาพโดรนบินระยะใกล้เฮลิคอปเตอร์ ที่ลำเลียงสมาชิกทีมหมูป่าหลังนำตัวออกจากถ้ำหลวง
เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 61 เพจเฟซบุ๊ก “CAAT – The Civil Aviation Authority of Thailand” เผยแพร่ความคืบหน้า กรณีสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เตรียมเอาผิดผู้บังคับโดรน จากกรณีมีภาพโดรนบินในระยะใกล้เฮลิคอปเตอร์ ที่ใช้ลำเลียงสมาชิกทีมหมูป่า หลังได้รับการช่วยเหลือออกจากถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 8 ก.ค 61 ที่ผ่านมา
โดย CAAT ระบุว่าจากกรณีเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2561 ตามที่ปรากฏภาพโดรนบินในระยะที่ใกล้เคียงกับเฮลิคอปเตอร์แบบ MI-17 ของกองทัพบก ที่กำลังทำการบินลำเลียงทีมหมูป่าอะคาเดมีชุดแรก ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ไปยังโรงพยาบาลและสามารถถ่ายภาพติดทั้งเฮลิคอปเตอร์และโดรน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่ออากาศยานหรือกระบวนการเคลื่อนย้ายสมาชิกทีมหมูป่านั้น
เมื่ออ้างอิงจากประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ. 2558 จึงอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนเงื่อนไขข้อ 5 (2) ระหว่างทำการบิน ข้อ (จ) ต้องทําการบินในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก ซึ่งสามารถมองเห็นอากาศยานได้อย่างชัดเจน และข้อ (ญ) ห้ามบังคับอากาศยานเข้าใกล้อากาศยาน ซึ่งมีนักบิน หากพบว่ามีความผิดจริงผู้บังคับโดรนลำดังกล่าว จะมีโทษตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 ตามมาตรา 80 มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท อย่างไรก็ตามสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่าศูนย์อำนวยการร่วมค้นหาผู้สูญหายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และศูนย์สนับสนุนทางอากาศโดยตรงที่ 3 กองทัพอากาศที่รับผิดชอบควบคุมการจราจรทางอากาศเหนือเขานางนอนและฝูงบิน 416 ได้กำหนดให้พื้นที่ ในรัศมี 15 ไมล์ทะเล รอบบริเวณวนอุทยานเป็นเขตควบคุมการบินเป็นกรณีชั่วคราว การบังคับหรือปล่อยโดรน ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว จะต้องได้รับอนุญาตจากศูนย์อำนวยการร่วมฯ ก่อนทุกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
mthai.com