DIGITALNEWSSlider Area

“Digital Thailand Big Bang 2018” ตอกย้ำจุดยืนรัฐบาลใช้ดิจิทัลพลิกโฉมประเทศ

 

 

งาน ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง 2018 ตอกย้ำจุดยืนรัฐบาลใช้ดิจิทัลพลิกโฉมประเทศ

 

 

 

เช้าวันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี)

นำคณะผู้จัดงาน ดิจิทัลไทยแลนด์บิ๊กแบง เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์งาน “Digital Thailand Big Bang 2018”

โดยได้นำเสนอกิจกรรมใน 3 โซน ได้แก่ 1) โลกเสมือน 3D visualization เมืองอัจฉริยะและดิจิทัลพาร์ค 2) ความสำเร็จของระบบการศึกษาที่ใช้วัฒนธรรมไทย ในการก้าวสู่ตลาดโลกและ3) เทคโนโลยีนวัตกรรมดิจิทัลฝีมือคนไทย

สำหรับทั้ง 3 โซนที่นำเสนอในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของงานมหกรรมดิจิทัลระดับนานาชาติ Digital Thailand Big Bang 2018 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-23 กันยายน 2561 ณ อิมแพคชาเลนเจอร์ ฮอล 1-3 เมืองทองธานี

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เร่งจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีดิจิทัลภูมิปัญญาไทย เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปสู่ต่างประเทศในรูปแบบแอนนิเมชั่น นอกจากนี้ยังให้นำนวัตกรรมดิจิทัลไปออกแบบผังเมืองเพื่อยกระดับเมืองเดิมให้เป็นเมื องอัจฉริยะจริง ๆ ส่วนเทคโนโลยีการพิสูจน์การมีตัวตนนั้นขอให้ต่อยอดเป็นฮาร์ดแวร์เพื่อนำไปสู่อุตสาหกรรมต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่านี่คือประโยชน์ของนวัตกรรม ในเรื่องผังเมือง ซึ่งเป็นโอกาสดีในการจัดระเบียบผังเมือง รวมถึงการแก้ปัญหาจราจรในอนาคต และนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชม กิจกรรมมวยไทยดิจิทัล ซึ่งเป็นความสำเร็จของระบบการศึกษาที่ใช้วัฒนธรรมไทยในการก้าวสู่ตลาดโลก มวยไทย ไอกล้า แอพพลิเคชันเพื่อการเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มวยไทยบนโลกดิจิทัล ที่ใช้สอนคนทั่วโลกแล้วกว่า 130 ประเทศ เพื่อก้าวสู่เส้นทางโอลิมปิก สามารถทำให้มวยไทยกลายเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประจำชาติ และเพิ่มมูลค่าให้กับวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของชาติ

รวมทั้งได้เยี่ยมชมเทคโนโลยีนวัตกรรมดิจิทัล 3D Face recognition เทคโนโลยีในการสแกนใบหน้าแบบ180 องศา ซึ่งเป็นฝีมือของคนไทยเช่นกัน ด้าน ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กล่าวว่า งาน Digital Thailand Big Bang 2018 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “THAILAND BIG DATA | โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน” เป็นการประกาศจุดยืนและความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลนี้เพื่อการขับเคลื่อนสู่ ไทยแลนด์ 4.0 งานนี้จะทำให้ทุกคนได้พบกับการเปลี่ยนแปลงของประเทศใน 8 ด้านหลัก ได้แก่

1) สัมผัสนวัตกรรม Cloud computing ที่เชื่อมโยงโลกทั้งใบอย่างไร้ขีดจำกัด

2) การพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานที่จะทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางข้อมูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในระดับภูมิภาค ที่เชื่อมโยงไปทั่วโลกผ่านดิจิทัลเทคโนโลยี อาทิ ระบบเคเบิลใยแก้วนำแสงใต้น้ำ (Submarine Cable) และดวงดาวอัจฉริยะหรือดาวเทียม เป็นต้น

3) มิติของการเปลี่ยนแปลงข้อมูลขนาดใหญ่ ที่นำไปใช้ประโยชน์และมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ

4) พบเทคโนโลยีแห่งอนาคต ทั้งเทคโนโลยีใหม่ เทคโนโลยีก่อกำเนิด (Emerging Technology) และนวัตกรรม ดิจิทัลจากเหล่า digital innovator กว่า 800 ราย

5) พบโอกาสมหาศาลในโลกแห่งข้อมูลไร้พรมแดนที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่กับบล็อคเชน ที่ไม่ใช่ดิจิทัลเฉพาะโลกการเงินแต่คือดิจิทัลสำหรับทุกคน

6) การศึกษา ระบบใหม่ ให้คนไทยก้าวเท่าทันการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ coding ถึงระดับ advance อย่างเท่าเทียม และทั่วถึง

7) ก้าวล้ำสู่อีกขั้นของ 7 เมืองอัจฉริยะ กับการเตรียมพร้อมรองรับเป็นเจ้าภาพระดับอาเซียน ปี 2019

8) มหกรรม การแข่งขันระดับเยาวชน ที่มีเด็กๆ ตบเท้าเข้าร่วมกว่า 5,000 คน เพื่อแสดงความสามารถทางด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ในการแข่งขันหุ่นยนต์ การแข่งขันบินโดรน การแข่งขันออกแบบภาษาคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

 

 

“งานนี้นับเป็นมหกรรมดิจิทัลระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพันธมิตรจาก 7 ประเทศ กว่า 100 หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมนำเสนอนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยหลากหลาย สาขา เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ตื่นตาตื่นใจ และเข้าใจถึงประโยชน์ ความสะดวกสบาย และโอกาสใหม่ๆ ทาง ธุรกิจ รวมถึงคุณภาพชีวิตที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าใจและใช้บิ๊ก ดาต้าอันจะส่งผลขับเคลื่อนการพัฒนาในทุกภาคส่วน” ดร.พิเชฐ กล่าว

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

NNT สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save