6 เรื่องพื้นฐานในการทำ E-mail Marketing
การทำ E-mail marketing นั้นนับว่าเป็นศาสตร์ที่สำคัญอย่างหนึ่งในการทำ Digital Marketing เพราะสามารถนำเนื้อหาทางการตลาดต่าง ๆ นั้นไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่เชื่อมต่อกับแบรนด์ได้โดยตรง และสามารถชักชวนกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ให้เข้ามาสู่ Sales Funnel ใหม่ได้อีกครั้ง หรือกลับเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่งการทำ E-mail Marketing ดี ๆ นั้นจะทำให้เกิดยอดขายหรือการสั่งซื้ออย่างมาก ดูได้จากการทำ E-mail Marketing ของ Amazon เป็นตัวอย่าง
แต่ในประเทศไทยเองการทำ E-mail Marketing นั้นกลับไม่ได้รับความนิยม เนื่องจากการความเข้าใจผิดในการใช้งาน การไม่มีความรู้ความเข้าใจในการใช้งาน และการใช้งานที่แบบไม่ได้สนใจว่าผู้บริโภคนั้นต้องการอะไร ทำให้ E-mail ที่ส่งไปนั้นกลับกลายเป็นว่าเป็น E-mail ที่ไปรบกวนผู้บริโภคอย่างมาก จนทำให้หลาย ๆ คนกดไม่ยอมรับ หรือกดทิ้งไป ทั้งนี้หากทำให้ถูกแล้ว E-mail Marketing นั้นจะกลายมามีความทรงพลังอย่างมาก และสามารถสร้างฐานสมาชิกเพิ่มขึ้นได้จาก E-mail ที่ส่งไปอีกด้วย ซึ่งเพื่อที่จะสามารถใช้ E-mail Marketing ได้ถูกต้อง ลองมาดูพื้นฐานการทำ E-mail Marketing 6 ข้อนี้กัน
1. ส่งให้ถูกคน : เหมือนกับการทำการตลาดโดยทั่ว ๆ ไป การส่งข้อความทางการตลาดนั้นก็ต้องส่งให้ถูกคน เพราะการส่งไม่ถูกคนออกไป ก็ไม่ได้ทำให้เค้าได้สนใจเนื้อหาที่ส่งออกไปนั้น แถมยังทำให้เกิดความรำคาญอีกด้วย ทั้งนี้การส่ง E-mail ให้ถูกคนนี้ ก็ต้องรู้ด้วยว่าควรจะส่งเข้าอีเมล์ไหนค่อไป เช่น ส่งหาสื่อมวลชน ก็มีทางเลือกคือ ส่งหากอง บก ทั้งหมด หรือส่งหา E-mail นักข่าวที่ทำงานในนั้น ซึ่งการส่งไปเฉพาะบุคคล ย่อมทำให้เกิดความสนใจได้มากกว่า เพราะเหมือนเราได้สื่อสารคน ๆ นั้นคนเดียว ซึ่งนี้เอามาใช้งานได้เป็นอย่างดีใน E-mail ทั่วไปด้วย โดยแทนที่จะส่งให้กับคนทั้งหมด โดยไม่ได้มีชื่อผู้รับ อาจจะแตกอีเมล์ดังกล่าวนั้นให้กลายเป็นรายบุคคลไป ซึ่งจะทำให้ผู้รับรู้สึกว่า E-mail นี้กำลังสื่อสารกับตัวเอง ไม่ใช่ใครก็ได้ที่เราส่งไป
2. ทำการสื่อสารหัวเรื่องให้ชัด : ผู้บริโภคในยุคนี้ไม่ได้รับอีเมล์น้อยฉบับเหมือนเมื่อก่อน แต่รับกันวันหนึ่ง 30-40 ฉบับต่อวัน ทำให้มีความขี้เกียจที่จะอ่าน เพราะส่วนมาก E-mail ที่ได้รับนั้นจะเป็นเหมือน Spam ซะมากกว่า ทำมีการเรียนรู้ทางจิตวิทยาในห้วข้อที่ไม่มีความเฉพาะเจาะจง หรือหัวข้อล่อเป้าให้อ่านทั้งหลาย ที่จะทำให้เกิดความไม่สนใจและลบ E-mail นั้นทิ้งไป ทั้งนี้การส่ง E-mail ที่ดี ควรทำหัวข้อการส่งนั้นให้ชัดเจน สั้นกระชับ ได้ใจความ และสิ่งสำคัญคือการทำให้ผู้รับนั้นรู้สึกว่าพิเศษที่ได้จดหมายฉบับนี้มา เหมือนตอนส่ง สคส. ให้นั้นเอง เช่นการใช้คำพูด “คุณได้รับเชิญ” “ประกาศพิเศษสำหรับคุณ” หรือ “เนื้อหาดี ๆ ที่เหมาะกับคุณ” และอื่น ๆ มากมาย
3. ทำ E-mail ให้ Personalise ซะ : หลาย ๆ ครั้ง อีเมล์ที่ส่งออกไปนั้นไม่ได้ดูว่าเนื้อหาที่ส่งออกไป หรือชื่อที่ส่งออกไปในเนื้อหานั้นเป็นชื่อผู้รับปลายทางหรือไม่ หรือเป็นชื่อกลาง ๆ ที่เป็นลักษณะนามไป ซึ่งด้วยการทำเช่นนี้ทำให้ E-mail นี้ไม่ได้น่าสนใจอย่างที่บอกไปข้างต้น การทำ Persernalise E-mail นั้นเริ่มตั้งแต่การส่งที่ชื่อ E-mail ของใครของมัน ชื่อผู้รับ ชื่อบริษัท และเนื้อหาใน E-mail ที่เหมาะกับแต่ละคนที่ส่งไป เพื่อให้ผู้รับรู้สึกว่า E-mail นั้นส่งมาเพื่อผู้รับจริง ๆ และเนื้อหานั้นต้องตรงกับความสนใจของผู้รับ มีการใช้ภาษาที่ตรงใจกันอีกด้วย
4. ทำเนื้อหาด้านในให้ดี : สิ่งสำคัญที่ทำให้เกิด Interaction ต่อมา คือการที่ทำให้ E-mail นั้นถูกกดมาได้ ทั้งนี้เพื่อที่ให้ผลการกดมาเช่นนี้ คือการที่เนื้อหานั้นมันต้องดีจริง ๆ ลองนึกภาพว่าเราฟังสุนทรพจน์ อันที่ไม่ดีก็สร้างความรำคาญ ความน่าเบื่อและอยากจะหนีไป แต่อันที่ดี ๆ นั้นจะสร้างการจดจำ การตั้งใจฟัง แถมที่สำคัญยังทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์เพิ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการเอาไปบอกต่อ หรือการสั่งซื้อหรือเข้ามาสอบถามได้เลย ทั้งนี้การสร้าง Call To Action ในเนื้อหานั้นเป็นสิ่งสำคัญ และการสร้างโอกาสที่จะให้ผู้บริโภคติดต่อมาเมื่อไหร่ก็ได้นั้นทำให้ผู้บริโภคจะรู้สึกอยากทำการลองที่จะเข้ามาปฏิสัมพันธ์ดูทันที
5. ส่งให้ถูกเวลา : สิ่งสำคัญที่หลาย ๆ คนพลาดไป คือการส่งที่ผิดที่ ผิดทาง เพราะการส่งนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่จะทำให้ E-mail นั้นถูกเปิด หรือไม่เปิด หรือแม้กระทั่งจะถูกลบทิ้งเองก็ตาม ลองนึกภาพว่าเรากำลังยุ่ง ๆ อย่างมาก แต่ปรากฏว่า อีเมล์นั้นถูกส่งมาในตอนที่กำลังยุ่งอย่างมากทันที แถมเป็นอีเมล์ที่ไม่สำคัญ แทนที่จะกดอ่าน จึงกดทิ้งอย่างทันที ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ การเข้าใจพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้สามารถส่งอีเมล์ต่าง ๆ ได้ถูกต้องต่อไป
6. เก็บค่าต่าง ๆ ในการส่ง E-mail มาปรับปรุง : ส่ิงสำคัญของการส่ง E-mail ไปคือการรู้ค่าต่าง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ E-mail นั้น ไม่ต่างอะไรจากการทำ Digital Marketing ที่จะมี Metric ในการวัดมากมายออกมา ที่จะทำให้เรารู้ว่าการส่ง E-mail Marketing ออกไปนั้นได้ประสิทธิภาพมากแค่ไหน และมีจุดต้องปรับปรุงอะไรบ้างต่อไป เพื่อสร้างให้ประสิทธิภาพของ E-mail Marketing นั้นดีขึ้นนั้นเอง
ที่มา: marketingoops
