Viral Video มิติใหม่ของงานโฆษณาออนไลน์

tablet on the hand with video player

เทคนิคการการทำ Viral Video เป็นหนึ่งในคำพูดติดปากของนักการตลาด เอเยนซี่ และโปรดักชั่นเฮ้าส์มากในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาหลังจากที่ Social Media บูมอย่างมากและเห็นเคสของพวกคลิปมีคนดูล้านวิว แชร์กันเต็ม Timeline ซึ่งจากประสบการณ์ของผมนั้นก็จะเห็นเอเยนซี่หลายรายเอามาเป็นจุดข้ายในการ “ปั้น Viral”

ทำไมประเทศไทยถึงไม่นิยม Viral Video

  1. ไม่มีใครสร้างและ Commit การเกิด Viral ได้หรอก

ข้อเท็จจริงข้อหนึ่งคือ Viral Video ไม่ได้เกิดขึ้นจากเอเยนซี่หรือโปรดักชั่นเฮ้าส์ เพราะการเกิดภาวะ Viral นั้นเกิดขึ้นจากผู้บริโภคเป็นคนที่สร้างขึ้นมา นั่นคือการส่งต่อ แชร์ และบอกต่อผ่านเครือข่ายของตัวเอง ซึ่งเราต้องยอมรับกันก่อนว่าการทำ Video แล้วซื้อ Facebook Ad / YouTube Preview ให้ยอดวิวขึ้นเยอะๆ รวมทั้งการจ้างเขียน Advertorial โปรโมท Video นั้นไม่ใช่ “Viral” อย่างที่เอามาเคลมๆ กันหรอกครับ มันก็ไม่ต่างจากการที่ทำหนังโฆษณาแล้วอัดทุกช่องเวลา Prime Time ให้คนเห็นเยอะๆ

  1. ตัวเลข View ที่เอามาพูดกันไม่ได้แปลว่า Complete Views

คนทำงานต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่าตัวเลข View ที่ทั้ง YouTube และ Facebook โชว์กันนั้นเป็นตัวเลขที่นับเมื่อมีการดูวีดีโอ “ถึงระยะเวลาหนึ่ง” ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่า 1 ล้านวิวที่โชว์กันนั้นจะหมายถึงว่ามีคนดูแบบ “เต็ม” 1 ล้านครั้งเสียเมื่อไร

ความตลกอย่างหนึ่งคือ Video จำนวนมากถูกรันโฆษณาเพื่อให้เพิ่มยอดวิวโดยที่ตัววีดีโอนั้นมีความยาวพอสมควร และกว่าที่จะตบเข้าเรื่องสินค้า บริการก็ปาเข้าไปท้ายๆ แน่นอนว่าสิ่งที่หลายๆ คนใส่ใจคือจำนวนยอดวิวเป็นตัวตั้ง แต่ที่หลายๆ คนไม่ได้ใส่ใจหรือพิจารณาดูคือจำนวนของ Complete Views ซึ่งเราก็จะพบว่าหนังโฆษณา และ Video Content จำนวนมากมียอดวิวกระฉูดจากการรันโฆษณากระหน่ำ แต่พอถามกันว่าได้ดูโฆษณาตัวนี้ไหม คนจำนวนมากก็จำไม่ได้เพราะไม่ได้ดูจนจบ

  1. การ Viral อาจจะไปสู่คนที่ไม่ใช่ Target ของคุณเลยก็ได้

แน่นอนว่าถ้าหากมันเกิด Viral ก็คงจะดีเป็นแน่เพราะแบรนด์ก็ย่อมได้ Brand Awareness มากขึ้น แต่คำถามคือการที่ Viral นั้นไปสร้าง Earn Awareness กับกลุ่มที่ไม่ใช่เป้าหมาย ไม่ใช่กลุ่มที่สนใจจะซื้อสินค้าและบริการ การเกิด Viral นั้นจะยังมีค่าอยู่หรือเปล่า?

แน่นอนว่ามันคงไม่ถึงขั้นไร้ค่า หรือไร้ประโยชน์ แต่เราต้องตั้งคำถามกันว่าการพยายามใส่พลังเข้าไปเพื่อให้มันเกิดการ Viral นั้นส่งผลที่จำเป็นกับธุรกิจจริงๆ หรือเปล่า? ผมเห็นหนังหลายเรื่องมีคนแชร์กันมากมายจนคนทำงานก็ดีใจกันยกใหญ่ แต่พอนั่งดูๆ ว่าคนแชร์เป็นใครก็พบว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจเลย คำถามคือการได้ Awareness ที่มากขึ้นเยอะๆ นั้นจะมีส่งผลกับการตลาดขนาดไหน

  1. คน Recall Ad / Recall Story น่ะได้ แต่คน Recall Brand / Product ได้หรือเปล่า?

ผมมักทำการทดลองบ่อยๆ ในการเอาคลิปหนังดังๆ ที่คนแชร์กันสนั่นหรือมีการเขียนข่าวกันว่าเป็นหนังไวรัลยอดเยี่ยม ตลอดไปจนถึงเอางานรางวัลแล้วปิดชื่อแบรนด์ ชื่อ Facebook ไปถามกับคนจำนวนมากว่าจำอะไรได้บ้าง

สิ่งที่น่าสนใจคือคนจำนวนมากจำได้แต่ว่าเรื่องเป็นอย่างไร เรื่องนี้มีอารมณ์อะไร แต่พอถามว่าแบรนด์สินค้าอะไร กลับตอบกันไม่ได้ เผลอๆ ไปตอบคู่แข่งเอาเสียอีกต่างหาก

ที่มา : https://goo.gl/aORPRG , https://goo.gl/S6BBVa

 

mm

BANK

More Posts

Follow Me:
Facebook

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save